พระพิฆเนศปางที่ 1 : พระบาลคณปติ (Bala Ganapati)
อวตารภาคเด็ก ปางอันเป็นที่รักของทุกคนและเด็กๆ
คาถา บทสวด “โอม ศรี บาลา คณปติ ยะนะมะฮา”
เป็นพระพิฆเนศในวัยเด็ก คลานอยู่กับพื้น หรืออิริยาบถอื่นๆ เมื่อโตขึ้นจึงเปลี่ยนลักษณะ มีวรรณะสีแดงเข้มมี 4 กร
บาลคณปติ หมายถึงสีทองของพระเจ้า ทรงถือต้นอ้อย มะม่วง กล้วย และขนุน ที่งวงถือลูกมะขวิด แสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ และภาวการเจริญเติบโต
นิยมบูชาในบ้านเรือน หรือโรงเรียนที่มีเด็กเล็ก เด็กนักเรียน เช่น โรงเรียนอนุบาลและชั้นประถม สถานรับเลี้ยงเด็ก สนามเด็กเล่น ฯลฯ
พระพิฆเนศปางที่ 2 : พระตรุณคณปติ (Taruna Ganapati)
อวตารภาควัยหนุ่ม ปางที่ให้คุณประโยชน์ในกิจการงาน
คาถา บทสวด “โอม ศรี ตรุณะ คณปติ ยะนะมะฮา”
วรรณะสีแดงอมส้มเหมือนอาทิตย์ยามแรกอรุณ มี 8 กร ทรงถือรวงข้าว ต้นอ้อย ตะบอง บ่วงบาศ งาหัก ผลฝรั่ง ขนมโมทะกะ และขนมอื่นๆ ปางนี้เป็นตัวแทนการเจริญเติบโต และความเป็นหนุ่มสาว
นิยมตั้งบูชาไว้ตามสถานศึกษา มหาวิทยาลัย หรือสถานที่ทำงานที่เต็มไปด้วยคนหนุ่มสาววัยกระตือรือร้น
พระพิฆเนศปางที่ 3 : พระภักติคณปติ (Bhakti Ganapati)
ปางบูชาขอพระเวท เพื่อความสมบูรณ์เติมเต็มของชีวิต
คาถา บทสวด “โอม ศรี ภัคดี คณปติ ยะนะมะฮา”
วรรณะสีขาวบริสุทธิ์ดั่งพระจันทร์เต็มดวงในฤดูเก็บเกี่ยว
มี 4 กร ทรงถือมะม่วง กล้วย ลูกมะพร้าว และถ้วยข้าวปาส (ปรุงด้วยนมสด และข้าวสาร มีรสหวาน)
พระภัคติคณปติ หมายถึง ผู้ภักดีอย่างแท้จริงบูชาเพื่อความสุขสมหวังในชีวิต หรือเพื่อความหลุดพ้น
พระพิฆเนศปางที่ 4 : พระวีระคณปติ (Veera Ganapati)
อวตารแห่งนักรบ ปางออกศึก และปราบมาร ให้อำนาจในการบริหารปกครอง และความเป็นผู้นำ
คาถา บทสวด “โอม ศรี วีระ คณปติ ยะนะมะฮา”
วรรณะสีแดงโลหิต มี 16 กร ทรงอาวุธ และสิ่งมงคลต่างๆ คือ โล่ หอก ค้อน คทา ธงชัย จักรตรา พญางู ขวาน คันศร ลูกศร ตรีเพชร ขอสับช้าง อสูร กระบี่ ตะบอง และบ่วงบาศ พระกรเหล่านั้นกางออกประดุจรัศมีอำนาจแห่งดวงอาทิตย์
อำนวยผลให้กับองค์กรบริหารราชการแผ่นดิน ทหาร ตำรวจ พลเรือน ฝ่ายปกครอง ผู้นำ ผู้บริหาร หัวหน้าหน่วยงานทุกประเภท
พระพิฆเนศปางที่ 5 : พระศักติคณปติ (Shakti Ganapati)
ปางทรงอำนาจเหนือการงาน การเงิน และความรัก
พระพิฆเนศปางที่ 6 : พระทวิชาคณปติ (Dwija Ganapati)
ปางของการบุกเบิก เริ่มต้นชีวิตใหม่ เปิดกิจการใหม่
คาถา บทสวด “โอม ศรี ทวิชา คณปติ ยะนะมะฮา”
วรรณะสีขาวมี 4 เศียร 4 กร ทรงลูกประคำ ไม้ครู (หรือไม้พลอง) กาน้ำ และคัมภีร์ เป็นสัญลักษณ์แห่งการเกิดใหม่ ความพากเพียร และแสวงหาวิชาความรู้
อำนวยผลให้กับผู้ประกอบกิจการต่างๆ นักธุรกิจ นักลงทุน นักสำรวจ นักบุกเบิก คนทำงานต่างแดน เป็นต้น
พระพิฆเนศปางที่ 7 : พระสิทธิคณปติ (Siddhi Ganapati)
ปางประทานความสมบูรณ์ และทรัพย์สมบัติ
คาถา บทสวด “โอม ศรี สิทธิ คณปติ ยะนะมะฮา”
วรรณะสีทองคำ มี 4 กร ทรงถือช่อดอกไม้ มะม่วง ต้นอ้อย และขวาน ส่วนงวงนั้นชูขนม
ปางนี้ทรงประทานความร่ำรวย และความอุดมสมบูรณ์ให้กับโลก
อำนวยผลด้านทรัพย์สินเงินทอง และความมั่งมีศรีสุข เหมาะสำหรับผู้บูชาทุกสาขาอาชีพ
พระพิฆเนศปางที่ 8 : พระอุจฉิษฏะคณปติ (Uchhishta Ganapati)
ปางเสน่หา และความสำเร็จสมปรารถนา
คาถา บทสวด “โอม ศรี อุจฉิษฏะ คณปติ ยะนะมะฮา”
วรรณะสีฟ้าเทาดุจเมฆา มี 6 กร ประทับนั่ง โดยพระกรหนึ่งโอบอุ้มศักติชายาอยู่ที่ตักด้านซ้าย ส่วนพระกรอื่นถือลูกประคำ ลูกทับทิมแดง พิณ รวงข้าว และดอกบัว
อำนวยผลให้เกิดเสน่ห์ และความสำเร็จในด้านต่างๆตามแต่จะอธิษฐาน
พระพิฆเนศปางที่ 9 : พระวิฆณา คณปติ (Vighna Ganapati)
ปางขจัดอุปสรรค และแก้ไขปัญหา
คาถา บทสวด “โอม ศรี วิฆนา คณปติ ยะนะมะฮา”
วรรณะสีทองคำ มี 8 กร ทรงถือพวงมาลัย ขวาน ดอกไม้ จักรตรา หอยสังข์ ต้นอ้อย บ่วงบาศ และตะบอง
อำนวยผลให้ประสบความสำเร็จทั่วไป ตามแต่จะอธิษฐาน
พระพิฆเนศปางที่ 10 : พระกษิประคณปติ (Kshipra Ganapati)
ปางประทานพรให้สำเร็จรวดเร็ว
คาถา บทสวด “โอม ศรี กษิประ คณปติ ยะนะมะฮา”
วรรณะสีแดงเข้มดุจกุหลาบ มี 4 กร เป็นผู้ให้ศีลให้พร ประทานพรให้เกิดผลสำเร็จอย่างรวดเร็ว ทรงถือตะบอง งาหัก บ่วงบาศ และช่อดอกไม้
อำนวยผลให้ประสบความสำเร็จทั่วไป ตามแต่จะอธิษฐาน
พระพิฆเนศปางที่ 11 : พระเหรัมภะคณปติ (Heramba Ganapati)
ปางปกป้องคุ้มครอง
คาถา บทสวด “โอม ศรี เหรัมภะ คณปติ ยะนะมะฮา”
วรรณะสีขาว มี 5 เศียร 10 กร ประทับนั่งบนหลังสิงโต หมายถึง พลังอำนาจในการปกครองบริวาร กางพระกรประดุจรัศมีคุ้มกันสรรพภัย พระหัตถ์ซ้ายประทานอภัย พระหัตถ์ขวาอำนวยพร ทรงถือมะม่วง ลูกประคำ ขนมโมทะกะ งาหัก บ่วงบาศ ค้อน ขวาน และพวงมาลัย บูชาเพื่อขจัดความอ่อนแอ ไร้พลัง
เป็นปางหนึ่งที่พระราชาในอินเดียนิยมบูชากันมาก อำนวยผลด้านการปกป้องคุ้มครองบริวาร การบริหาร ปกครองของผู้นำ
พระพิฆเนศปางที่ 12 : พระมหาคณปติ (Maha Ganapati)
ปางประทานความสุขอันยิ่งใหญ่ให้ครอบครัว
คาถา บทสวด “โอม ศรี มหา คณปติ ยะนะมะฮา”
วรรณะสีแดง มี 10 กร 3 เนตร ประดับจันทร์เสี้ยวบนมงกุฎ ปางนี้ทรงอุ้มชายา คือพระนางพุทธิ และพระนางสิทธิไว้บนตักทั้งสองข้าง (บางตำราว่าอุ้มองค์เดียว) ทรงถืองาหัก คทา โถใส่อัญมณี รวงข้าว จักรตรา บ่วงบาศ ดอกลิลลี่ ต้นอ้อย ดอกบัว และลูกทับทิมแดง
อำนวยผลให้ครอบครัวเกิดความสมบูรณ์พูนสุข มีทรัพย์สิน และบริวารมาก
พระพิฆเนศปางที่ 13 : พระวิชัยคณปติ (Vijaya Ganapati)
ปางกำจัดอุปสรรค และความมืดมิด
คาถา บทสวด “โอม ศรี วิชะยา คณปติ ยะนะมะฮา”
วรรณะสีแดง มี 4 กร ประทับบนตัวหนู หมายถึงการทำลายความมืดมิด
และอุปสรรคทั้งหลายให้หมดไป ทรงถืองาหัก ตะบอง ผลมะม่วง และบ่วงบาศ
อำนวยผลทางปัญญาให้กับครูบาอาจารย์ ปัญญาชน ศิลปิน นักคิด นักเขียน และช่างฝีมือทุกแขนง
พระพิฆเนศปางที่ 14 : พระลักษมีคณปติ (Lakshmi Ganapati)
ปางแห่งความมั่งมีศรีสุข และปรีชาญาณ
คาถา บทสวด “โอม ศรี ลักษมี คณปติ ยะนะมะฮา”
วรรณะสีขาว มี 8 กร เป็นเทพแห่งการให้ที่บริสุทธิ์ สีขาว หมายถึงการมีสติปัญญาสูงส่ง พระหัตถ์ทั้งสองข้างโอบอุ้มพระชายา 1 หรือ 2 พระองค์ คือพระนางพุทธิ และพระนางสิทธิ (บางตำราว่าหนึ่งในนั้นคือพระลักษมี จึงเรียกว่า ลักษมีคณปติ)
ทรงถือผลทับทิมแดง ช่อกัลปพฤกษ์ นกแก้ว ตะบอง บ่วงบาศ โถใส่อัญมณี และกระบี่
อำนวยผลทางด้านสติปัญญา และความมั่งมีศรีสุข
พระพิฆเนศปางที่ 15 : พระนฤตยะคณปติ (Nritya Ganapati)
ปางนาฏศิลป์ เจ้าแห่งลีลาการร่ายรำ และศิลปะการแสดง
คาถา บทสวด “โอม ศรี นฤตยะ คณปติ ยะนะมะฮา”
วรรณะสีเหลืองทอง มี 4 กร เป็นนักเต้นร่ายรำระบำฟ้อน และเป็นนักแสดงที่สร้างความบันเทิง และความสุขให้ชาวโลก ประทับยืนงอเข่าขวาเหยียบบนดอกบัว
ทรงถืองาหัก ตะบอง บ่วงบาศ และขวาน
ควรตั้งบูชาในวิทยาลัยนาฏศิลป์ โรงเรียนสอนเต้นรำ บัลเล่ต์ โยคะดัดตน โรงเรียนสอนการแสดง โรงละคร โรงถ่ายทำภาพยนตร์ และสถานบันเทิงต่างๆ ตามความเหมาะสม
พระพิฆเนศปางที่ 16 : พระอุทวะคณปติ (Urdhva Ganapati)
ปางช่วยให้สมปรารถนาในทุกสิ่ง
คาถา บทสวด “โอม ศรี อุทวะคณปติ ยะนะมะฮา”
วรรณะสีทอง มี 8 กร พระกรข้างหนึ่งโอบพระชายาไว้บนตักด้านขวา ทรงถือดอกบัว คบเพลิง ช่อดอกไม้ งาหัก ลูกศร คันศรทำจากต้นอ้อย และรวงข้าว
ในนิกายตันตระ นิยมบูชาปางนี้เพื่อประโยชน์ในการทำพิธีด้านเสน่ห์ อำนวยผลให้สมปรารถนาทุกประการ
พระพิฆเนศปางที่ 17 : พระเอกอักษราคณปติ (Ekaakshara Ganapati)
ปางทรงอำนาจด้านพระเวท
คาถา บทสวด “โอม ศรี เอกา อักษรา คณปติ ยะนะมะฮา”
วรรณะสีแดง มี 4 กร มีดวงตาที่สาม ประดับจันทร์เสี้ยวอยู่เหนือเศียร
กรหนึ่งประทานพร ทรงถือตะบอง บ่วงบาศ และผลทับทิม ประทับเหนือพาหนะคือหนู
อำนวยผลด้านป้องกันอาถรรพณ์ และคุณไสย สำหรับบุคคลทั่วไป และผู้ร่ำเรียนด้านพระเวท หรือสรรพศาสตร์ด้านต่างๆ
พระพิฆเนศปางที่ 18 : พระวระคณปติ (Vara Ganapati)
ปางแห่งความรักที่สุขสมหวัง
คาถา บทสวด “โอม ศรี วะระ คณปติ ยะนะมะฮา”
วรรณะสีแดง มี 4 กร 3 เนตร มีดวงตาที่สาม อันเป็นดวงตาแห่งสติปัญญา และมีจันทร์เสี้ยวประดับเหนือเศียร กรหนึ่งโอบกอดชายาบนตัก ทรงถือชามขนม ตะบอง และบ่วงบาศ ที่งวงชูโถใส่น้ำผึ้ง
อำนวยผลให้สมหวังในความรัก ควรตั้งบูชาไว้ในร้านเสื้อผ้า ร้านค้าที่เกี่ยวกับการสมรส การแต่งงาน และความรัก ฯลฯ
พระพิฆเนศปางที่ 19 : พระตรีอักษราคณปติ (Tryakshara Ganapati)
ปางกำเนิดอักขระโอม
คาถา บทสวด “โอม ศรี ตรีอักษรา คณปติ ยะนะมะฮา”
วรรณะสีทอง มี 4 กร ทรงถืองาหัก ตะบอง บ่วงบาศ และมะม่วง มีขนมโมทกะอยู่ที่งวง
อำนวยผลด้านการเรียนพระเวท และอักษรศาสตร์
พระพิฆเนศปางที่ 20 : พระกศิปะปรสัทคณปติ (Kshipra-Prasada Ganapati)
ปางประทานทรัพย์ และความรอบรู้
คาถา บทสวด “โอม ศรี กศิปะ ปรสัท คณปติ ยะนะมะฮา”
วรรณะสีแดง มี 6 กร ท้องที่ใหญ่นั้นเป็นสัญลักษณ์ของจักรวาล หมายถึงความอุดมสมบูรณ์แห่งโภคทรัพย์ และความรอบรู้อันกว้างไกล ทรงถืองาที่หัก ต้นทับทิม ตะบอง บ่วงบาศ ดอกบัว และผลทับทิม
เหมาะสำหรับตั้งบูชาในสถานศึกษา มหาวิทยาลัย สถานอบรมวิชาชีพต่างๆ หรือบริษัทห้างร้านทั่วไป
พระพิฆเนศปางที่ 21 : พระหริทราคณปติ (Haridra Ganapati)
ปางรวยเสน่ห์ และรวยทรัพย์
คาถา บทสวด “โอม ศรี หริทรา คณปติ ยะนะมะฮา”
วรรณะสีเนื้อหรือสีเหลืองอ่อน มี 3 เนตร 4 กร ทรงถืองาหัก ตะบอง บ่วงบาศ และขนมโมทกะ ใช้อำนาจของบ่วงเพื่อร้อยรัดศรัทธาของผู้เลื่อมใส และตะบองผลักดันให้ก้าวเดินไปข้างหน้า
อำนวยผลให้ทุกคนที่อยากมีเสน่ห์ และร่ำรวย เช่น ดารานักแสดง นักดนตรี นักร้อง ดีเจ พิธีกร หรือผู้ให้ความบันเทิงแก่ผู้ชม ซึ่งต้องใช้พรสวรรค์ และเสน่ห์ส่วนตัว
พระพิฆเนศปางที่ 22 : พระเอกทันตะคณปติ (Ekadanta Ganapati)
ปางสำเร็จทุกสิ่ง
คาถา บทสวด “โอม ศรี เอกทันตะ ปะระสัท คณปติ ยะนะมะฮา”
วรรณะสีฟ้า มี 4 กร ทรงถือขวาน (เพื่อใช้กำจัดอวิชชา) ทรงถือลูกประคำ (เพื่ออธิษฐาน) ผลไม้ และงาข้างที่หัก
เอกทันตะ หมายถึง เทพเจ้าผู้มีงาข้างเดียว
อำนวยผลให้ประสบความสำเร็จทุกสิ่งตามแต่จะอธิษฐาน
เหมาะสำหรับตั้งบูชาในถานศึกษา มหาวิทยาลัย สถานอบรมวิชาชีพต่างๆ หรือบริษัทห้างร้านทั่วไป
พระพิฆเนศปางที่ 23 : พระสะริสติคณปติ (Shrishti Ganapati)
ปางออกเดินทาง และสร้างสรรค์สิ่งใหม่
คาถา บทสวด “โอม ศรี สะริสติ ปะระสัท คณปติ ยะนะมะฮา”
วรรณะสีแดงส้ม มี 4 กร ขี่หนูเป็นพาหนะ ทรงถืองาหัก ตะบอง มะม่วงและบ่วงบาศ
อำนวยผลให้กับผู้ประกอบอาชีพด้านการเดินทางที่ไม่หยุดนิ่ง เช่น นักบิน สจ๊วต แอร์โฮสเตส กัปตันเรือ มัคคุเทศก์ ผู้ทำงานด้านสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ไม่หยุดนิ่งเช่น นักคิด นักเขียน นักโฆษณา นักออกแบบ เป็นต้น
พระพิฆเนศปางที่ 24 : พระอุททันตะคณปติ (Uddanda Ganapati)
ปางกำจัดภูตผี และคุณไสย
คาถา บทสวด “โอม ศรี อุททันตะ คณปติ ยะนะมะฮา”
วรรณะสีแดง มี 10 กร ทรงถืองาหัก โถใส่ขนมหรือน้ำผึ้ง ดอกบัว ดอกลิลลี่สีฟ้า คทา ต้นอ้อย กิ่งไม้ บ่วงบาศ พวงมาลัย และผลทับทิม โดยใช้กรซ้ายโอบพระชายาอยู่ที่ตักด้านซ้าย
อำนวยผลด้านขจัดทุกข์ภัย และอาถรรพณ์ต่างๆ บันดาลให้ครอบครัวมีความสุข
พระพิฆเนศปางที่ 25 : พระรีนาโมจันคณปติ (Runamochana Ganapati)
ปางแก้กรรม และขจัดหนี้สิน
คาถา บทสวด “โอม ศรีโอมจัน คณปติ ยะนะมะฮา”
วรรณะสีขาว มี 4 กร มีหน้าที่ปลดปล่อยมนุษย์ออกจากพันธนาการ คำสาป
และความผิดพลาดทั้งหลาย ทรงถืองาหัก ตะบอง บ่วงบาศ และขนมโมทะกะ
เหมาะสำหรับผู้บูชาที่ต้องการเปลี่ยนแปลงชีวิตใหม่ให้ดีขึ้น (พลิกฟื้นดวงชะตา) แก้ไขกรรมเก่า ปลดหนี้สิน ล้างมลทินทั้งปวง
พระพิฆเนศปางที่ 26 : พระตันติคณปติ (Dhundhi Ganapati)
ปางขุมทรัพย์ทางปัญญา
คาถา บทสวด “โอม ศรี ตันติ คณปติ ยะนะมะฮา”
วรรณะสีแดง มี 4 กร ทรงถืองาหัก ลูกประคำ ขวาน โถใส่อัญมณี ที่บรรจุขุมทรัพย์ของผู้มีพุทธิปัญญา
อำนวยผลให้กับผู้ทำงานด้านใช้ความคิด ใช้ปัญญาสร้างสรรค์ทุกแขนง
พระพิฆเนศปางที่ 27 : พระทวิมุขคณปติ (Dwimukha Ganapati)
ปาง 2 เศียร
คาถา บทสวด “โอม ศรี ทวิมุข คณปติ ยะนะมะฮา”
วรรณะสีเนื้อหรือสีเหลืองอ่อน มี 2 เศียร 4 กร ทรงถือตะบอง บ่วงบาศ ถืองาข้างที่หัก และโถอัญมณี เป็นปางที่เป็นคนที่ปรับตัวได้กับทุกคน ให้ทรัพย์มาก และขจัดอวิชชา
อำนวยผลให้กับผู้ทำงานด้านประชาสัมพันธ์ ด้านติดต่อเจรจา ประสานงาน เป็นสื่อกลางต่างๆ นักการทูต นักจิตวิทยา ที่ต้องใช้มนุษย์สัมพันธ์สูง
พระพิฆเนศปางที่ 28 : พระตรีมุขคณปติ (Trimukha Ganapati)
ปาง 3 เศียร
คาถา บทสวด “โอม ศรี ตรีมุข คณปติ ยะนะมะฮา”
วรรณะสีแดง หรือสีชมพูสด มี 3 เศียร 6 กร สามเศียร หมายถึง ภพทั้งสาม (สวรรค์, โลกมนุษย์, บาดาล) ถือเป็นปางเปิดโลกปางหนึ่ง ประทับนั่งบนดอกบัว พระหัตถ์ขวาประทานอภัย พระหัตถ์ซ้ายอำนวยพร กรทรงถือตะบอง ลูกประคำ บ่วงบาศ และโถใส่น้ำผึ้ง
อำนวยผลทางด้านโภคทรัพย์ มีอำนาจ และแคล้วคลาดปลอดภัย
พระพิฆเนศปางที่ 29 : พระสิงหะคณปติ (Sinha Ganapati)
ปางประทับราชสีห์
คาถา บทสวด “โอม ศรี สิงหะ คณปติ ยะนะมะฮา”
วรรณะสีขาว มี 8 กร พระหัตถ์ขวาประทานอภัย พระหัตถ์ซ้ายอำนวยพร ทรงถือช่อดอกไม้ ราชสีห์ พิณ ดอกบัว โถอัญมณี ประทับบนสิงโต (คล้ายพระเหรัมภะคณปติ) หมายถึง พลังอำนาจในการปกครองบริวาร ผิววรกายขาวเป็นสัญลักษณ์ของพลังบริสุทธิ์ หรือการหลุดพ้น
การอำนวยผลและสถานที่สำหรับตั้งบูชา เป็นดุจเดียวกับ พระเหรัมภะคณปติ และพระวีรคณปติ คืออำนวยผลให้กับองค์กรบริหารราชการแผ่นดิน ทหาร ตำรวจ พลเรือน ฝ่ายปกครอง ผู้นำ ผู้บริหาร หัวหน้าหน่วยงานทุกประเภท
พระพิฆเนศปางที่ 30 : พระโยคะคณปติ (Yoga Ganapati)
ปางแห่งพระเวท หรือปางสมาธิกรรมฐาน
คาถา บทสวด “โอม ศรี โยคะ คณปติ ยะนะมะฮา”
วรรณะสีทองคำ มี 4 กร ทรงถือลูกประคำ ต้นอ้อย บ่วงบาศ และขอสับช้าง เป็นปางแห่งพระเวท และการรักษาโรคภัยต่างๆ
อำนวยผลให้กับผู้เป็นอาจารย์ และนักศึกษาโยคะสมาธิแบบต่างๆ เหมาะสำหรับตั้งบูชาไว้ในสถานศึกษา
หรือบูชาไว้ใน เทวสถาน เทวาลัย โรงเรียนสอนศาสนาฮินดู ห้องพระ ห้องปฏิบัติธรรมภายในบ้าน เป็นต้น
พระพิฆเนศปางที่ 31 : พระทุรคาคณปติ (Durga Ganapati)
ปางมหาอำนาจ
คาถา บทสวด “โอม ศรี ทุรคา คณปติ ยะนะมะฮา”
วรรณะสีทอง มี 8 กร ทรงถืองาหัก ตะบอง คันศร ลูกศร บ่วงบาศ ธงชัย ลูกประคำ และขนมโมทะกะ เป็นปางที่พระราชาในชมพูทวีปนิยมสักการบูชามากปางหนึ่ง
อำนวยผลดีต่อผู้ปฏิบัติหน้าที่ราชการ ทหาร ตำรวจ ข้าราชการฝ่ายปกครอง ผู้บริหาร หรือหัวหน้าหน่วยงานทุกระดับ
พระพิฆเนศปางที่ 32 : พระสังกตะหะราคณปติ (Sankatahara Ganapati)
ปางทำลายอุปสรรค และความเศร้าหมอง
คาถา บทสวด “โอม ศรี สังกตะ หะรา คณปติ ยะนะมะฮา”
วรรณะสีแดงอมส้ม มี 4 กร ประทับนั่งบนดอกบัวสีแดง พระหัตถ์ขวาอำนวยพร
พระหัตถ์ซ้ายโอบชายาบนตักซ้าย ส่วนกรอื่น ทรงถือชามขนม ตะบอง และบ่วงบาศ
อำนวยผลให้ครอบครัวมีความสุข หรือประสบความสำเร็จ ตามแต่จะอธิษฐาน
Contents Credit : http://www.zabzaa.com/ganesh/posture-ganesh.html